UX&UI ประตูก้าวแรกของการทำธุรกิจ
UX UI เป็นคำที่หลายๆ ท่านต่างเคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งจนติดหูหรือคุ้นปาก หรือที่เรียกว่า Buzz word แต่จริงๆแล้วคำนี้เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและซ่อนความหมายอย่างที่เราเองอาจคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว UX หรือ User Experience ยังเป็นคำที่หลาย ๆ คนมักจะเข้าใจผิดถึงความหมายของมัน แล้วต่อด้วยคำถามที่ว่า UX เหมือนกับ UI มั้ย? วันนี้ JDC ขอนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับคำสองคำนี้พ่วงด้วยความสำคัญของการทำธุรกิจที่มี UX UI ร่วมด้วย
UX (User Experience) หรือ ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพคือ การออกแบบโดยพยายามเข้าใจผู้ใช้งานเป็นหลัก เหมือนออกแบบประสบการณ์ตั้งแต่เข้ามาในวินาทีแรก ไปจนถึงนาทีสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีธุรกิจหนึ่งที่อยากจะทำของออกมาขาย สิ่งแรกที่เรานึกถึงคือวางแผนกลยุทธ์ ทำการตลาดให้เจ๋ง วางแผนหากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ซึ่งบางครั้ง เราอาจจะลืมความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจอาจจะไม่เป็นอย่างที่หวัง ดังนั้น UX จะเข้ามามีบทบาทเป็นตัวช่วย ที่พยายามตอบโจทย์ในสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการ โดยวางแผนเป็นขั้นตอนเริ่มจาก ผู้ใช้งานต้องการอะไร ชอบแบบไหน คิดว่าผู้ใช้งานจะมีความรู้สึกยังไง และร่วมวางกลยุทธ์ หาวิธีที่จะสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งการเริ่มทำ UX มี 3 ขั้นตอนง่ายๆ คือ
- Understand– เริ่มทำความเข้าใจก่อน จากนั้นลองสร้างสมมุติฐานดู (ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงก็ได้)
- Design– วิเคราะห์ทำความเข้าใจ เริ่มออกแบบ
- Build & Test– ทำการลองกับ User test ว่าสิ่งที่เราคิด มันถูกต้องตามสิ่งที่เราคิดค้นขึ้นหรือเปล่า?
และขั้นตอนสุดท้ายหาข้อสรุปความผิดพลาดเพื่อนำมาปรับปรุงให้ตรงจุด แก้ไข เพื่อพัฒนาในเชิงธุรกิจต่อไป
UI (User Interface) การออกแบบโดยคำนึงถึงความสวยงามเป็นหลัก ให้ผู้ใช้งานเห็นแล้วรู้สึกเป็น First Impression ที่ดี ซึ่ง UI นั้นมีหลากหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ สี การออกแบบตัวอักษร การวางองค์ประกอบภาพ การออกแบบที่ดีต้องคำนึงถึงการใช้งานที่ง่ายและเฟรนด์ลี่ต่อผู้ใช้งาน
ซึ่งการทำงานร่วมกันของ UX & UI จะมี 4 ขั้นตอนหลักๆ คือ
1) คิดค้นหา Concept ถือเป็นสิ่งที่สำคัญโดยหารือร่วมกัน Brainstorm ในวิธีการคิดเพื่อให้มีแนวทางที่ชัดเจน เพราะ 1 คน รับบรีฟมา อาจจะเข้าใจต่างกัน การหารือร่วมกันให้ทุกคนมีแนวคิดไปในทิศทางทางเดียวกันถือเป็นเรื่องที่สำคัญค่อนข้างมาก ตั้งโจทย์และสมมติฐานว่าเราจะออกมาเพื่อใคร เริ่มจากตรงไหน การทำ Mind mapping จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถช่วยให้เข้าใจไอเดียมากขึ้น
2) Functional คือเริ่มการคิดฟีเจอร์ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกได้ใช้สบาย ครบครัน ฟีเจอร์ไหนที่ต้องมีแบบช่วยให้ชีวิตสบาย ลองเริ่มทำ Checklist กันขึ้นมาก่อน
3) Usability คือการลองลงสนามทำให้เหมือนของจริงมากที่สุด จุดประสงค์ของการทำ Usabilityคือ การ Test จาก User เพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุง จึงควรสังเกตทั้งความรู้สึกของผู้ใช้เพื่อทำให้ได้รับรู้ความต้องการที่แท้จริง
4) Visual Design คือการที่ต้องนำรายละเอียดทั้งหมดจาก 3 ขั้นตอนด้านบน ออกมา Desgin เพื่อความสวยงาม ครบทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ สี องค์ประกอบภาพ รวมไปถึงขนาดฟ้อนท์ด้วย
เพราะฉะนั้น UX & UI จึงมีความละเอียดและซับซ้อน เช่นเดียวกับการเริ่มสร้างธุรกิจถ้าเริ่มจากประตูที่ถูกต้องสวยงาม สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้ การกำหนดให้ผู้ใช้งานไปเปิดประตูบานไหนต่อไม่ใช่เรื่องยาก ผู้ใช้งานพร้อมจะเข้าใจและรู้สึก Loyalty ในประสบการณ์นี้ของเราจึงสามารถต่อยอดธุรกิจนี้ไปได้ไกล หรือถ้าหากหาตัวช่วยดีๆ ในการเริ่มต้นธุรกิจ JDC เราเป็นที่ปรึกษาครบวงจร ไม่ใช่แค่เรื่อง BIG DATA เท่านั้น! แล้วติดตามบทความดีๆ จากเราอีกนะครับ